เที่ยวกาฬสินธ์กะเพื่อนรัก

วันอังคารที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ภัยใกล้ตัวผู้หญิง

อันตราย..ภัยใกล้ตัวผู้หญิง
ภัยโรคจิตภารกิจ : ลวนลามผ่านกรรมวิธีทางคำพูด กิริยาหรือแม้กระทั่งสายตากลุ่มเป้าหมาย : ดักแซวผู้หญิงทุกวัย โดยเฉพาะวัยรุ่น ไม่เว้นแม้แต่ตุ๊ด กระเทย ทอม ดี้ วิธีรับมือ : พิจารณาพฤติกรรมก่อนว่าจัดอยู่โรคจิตประเภทใด ถ้าเป็นโรคจิต (คนบ้า) อย่าต่อปากต่อคำให้แจ้งตำรวจทันที แต่ถ้าเป็นโรคจิตประเภทจิตเสื่อม หรือจิตต่ำทราม ให้ร้องกรี๊ดเสียงดังๆขอความช่วยเหลือจากคนรอบข้าง จากนั้นแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ (หลังรุมสกรัมกันเองแล้ว)


ภัยบัตรเครดิต (แบบไม่รู้ตัว)ภารกิจ : ส่วนใหญ่ทำเป็นขบวนการ ใช้สำเนาเอกสาร บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน ที่คุณเคยยื่นทำธุรกรรมการเงินตามบริษัทหรือสมัครสมาชิกที่ต่างๆมาปลอมแปลงแอบอ้างทำบัตรเครดิตกลุ่มเป้าหมาย : คนทำงานฐานเงินเดือนและอายุงานตามกำหนด (ส่วนใหญ่ 15,000 บาทและอายุงาน 1 ปีขึ้นไป)สถานที่ : ร้านค้า, ห้างสรรพสินค้าที่เขียนป้ายว่า "ยินดีรับบัตรเครดิต" จากนั้นก็รูดกระหน่ำและเชิดหนีวิธีรับมือ : เซ็นรับรองสำเนาถูกต้องขีดคร่อมเอกสารทุกฉบับ และเขียนกำกับว่าใช้เพื่อทำธุรกรรมประเภทใด หรือถ้าสงสัยยอดค่าใช้จ่ายในใบเรียกเก็บค่าต่างๆให้รีบติดต่อบริษัทนั้นๆ เพื่อค้นหาข้อมูล

ภัยเครื่องดื่ม (แอลกอฮอล์)ภารกิจ : ส่วนใหญ่แอบผสมสารออกฤทธิ์ประเภทเดียวกับยานอนหลับในเครื่องดื่มกลุ่มเป้าหมาย : วัยรุ่นผู้หญิงชอบเที่ยวกลางคืน แต่งตัววูบวาบ เซ็กซี่ดูมีฐานะวิธีรับมือ : แต่งตัวให้มิดชิด ไม่เที่ยวคนเดียวหรือรับดริ๊งค์จากคนแปลกหน้าหมายเหตุ : เครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ทำให้ประสิทธิภาพในการขับรถลดลง แต่สำหรับผู้หญิงนับเป็นปัจจัยเสี่ยงให้มีการเสียตัวสูง ผู้หญิงกว่าครึ่งผับเลือกผสมแอลกอฮอล์ในเครื่องดื่มเพื่อเพิ่มความสนุกสนาน นอกเหนือจากเสียงเพลงและสิ่งบันเทิงใจอื่นๆ อาทิ ผู้ชายหน้าตาดี (ที่ยังไม่รู้จักนิสัย) เสื้อผ้าชุดใหม่ที่ใส่แล้วสุดวาบหวิว (จริงๆแล้วคนหน้าตาดีใส่อะไรก็สวยทั้งนั้น) และค็อกเทลสูตรใหม่ (ที่ไม่รู้ว่าใครผสมสารอะไรให้ดื่มหรือเปล่า)

ภัยหมอดูหลอกลวงภารกิจ : พูดจาหว่านล้อม ทำทีทำนายทักดวงชะตาในแง่ลบ ขอดูลายมือหรือพยายามแตะเนื้อต้องตัว และใช้ยาชาหรือยาสลบและเรียกทรัพย์ในรูปแบบสะเดาะเคราะห์ โดยคุณไม่ได้สติกลุ่มเป้าหมาย : ผู้หญิงบุคคลทั่วไปที่หน้าตาไม่ค่อยฉลาด จิตอ่อน งมงายเกินเหตุ งก อยากรวยทางลัด ระแวงกลัวสามีหรือแฟนจะนอกใจ จึงต้องพึ่งไสยศาสตร์วิธีรับมือ : งดเดินทางคนเดียวและใส่เครื่องประดับเกินความจำเป็น ดูดวงได้แต่ต้องดูอย่างมีสติ ไม่หลงงมงาย (ถ้าไม่อยากหมดตัว)

ภัยใบเสร็จรับเงินภารกิจ : ขายของแต่ไม่ให้ใบเสร็จรับเงิน (โดยอ้างเหตุผลต่างๆนานา) หรือสุ่มกล่าวหาผู้ซื้อว่าขโมยสินค้า ขอค้นตัวและเรียกค่าปรับ 10 เท่า (ถ้าไม่มีใบเสร็จยืนยัน)กลุ่มเป้าหมาย : ลูกค้าที่ซื้อสินค้าแล้วไม่ขอใบเสร็จรับเงิน หรือทิ้งใบเสร็จรับเงินทันทีที่ซื้อสินค้าวิธีรับมือ : เก็บใบเสร็จรับเงินไว้ยืนยันทุกครั้งเมื่อซื้อสินค้า และถ้าสงสัยว่าพนักงานจะร่วมมือเป็นกระบวนการ ควรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อตรวจสอบ

ภัยสังคมภารกิจ : ก่อเหตุในจุดที่ลับตาคน พูดจากล่อมจนเหยื่อไว้ใจกลุ่มเป้าหมาย : ผู้หญิงที่ชอบไปไหนมาไหนคนเดียว และใส่เครื่องประดับประดาวิธีรับมือ : อย่าหลงเชื่อคำพูดหรือไว้ใจคนแปลกหน้า, ไม่ควรไปไหนตามลำพัง

ภัยห้องลองเสื้อภารกิจ : จัดห้องลองแบบใช้ผ้ากั้น ,ติดกล้องวงจรปิด, ติดตั้งกระจกไว้ในลักษณะเอียงตามมุมต่างๆ (ซึ่งสามารถสะท้อนให้คนภายนอกมองผ่านได้)กลุ่มเป้าหมาย : ผู้หญิงวัยรุ่นที่นิยมซื้อเสื้อผ้าตามร้านริมทางหรือในที่สาธารณะ และใช้บริการห้องลองแบบผ้ากั้นวิธีรับมือ : ช่วยกันตะโกนร้องประจานเจ้าของร้านทันทีที่พบเหตุการณ์แบบนี้ (ให้อายจนขายของไม่ได้เลย) แจ้งตำรวจจับทันที และระมัดระวังตัวทุกครั้งเวลาลองเสื้อผ้า

ภัยรถแท็กซี่ภารกิจ : ป้ายยาไว้ที่ฝ่ามือ แล้วแกล้งเอื้อมมือกดปุ่มมิเตอร์ จากนั้นพยายามอังมือไว้ที่ช่องแอร์ โดยหันแอร์ไปทางผู้โดยสารและปิดกระจกรถกลุ่มเป้าหมาย : กลุ่มผู้หญิงวัยรุ่นที่นุ่งกระโปรงสั้น สวมเสื้อผ้าไม่มิดชิด ใส่เครื่องประดับล่อแหลมวิธีรับมือ : ถ้าตกอยู่ในสถานการณ์นี้ให้รีบเปิดกระจกสูดอากาศภายนอก และลงจากรถทันที จดทะเบียนรถ แจ้งตำรวจ

ภัยอาวุธป้องกันตัวภารกิจ : ใช้อุปกรณ์ป้องกันตัว อาทิ คัตเตอร์, เครื่องช็อตไฟฟ้า, สเปรย์พริกไทย, กระบอกไฟฟ้า, ปืนปากกา ของเหยือ กลับมาทำร้ายเหยื่อกลุ่มเป้าหมาย : วัยรุ่นหญิงที่ชอบพกอุปกรณ์เหล่านี้ติดกระเป๋าวิธีรับมือ : อุปกรณ์เหล่านี้เปรียบเสมือนดาบสองคม ก่อนใช้ควรศึกษารายละเอียดและวิธีใช้ และควรพิจารณาว่าเครื่องมือเหล่านี้สามารถรับมือกับคนร้ายได้หรือเปล่า ถ้าคิดว่าไม่รอด ไม่ต้องควักออกมา จะเป็นภัยตัวเองเปล่าๆ

ในเมื่อเรารู้วิธีป้องกันตัวเองแล้วอย่าลืมเอามาใช้ล่ะข้อมูลจาก
ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต ไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

การรณรงค์และมาตรการต่างๆ ที่รัฐบาลร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านทำข้อตกลงต่อต้านยาเสพติดร่วมกัน เพื่อให้การแพร่ระบาดลดลง มีผลให้ผู้ค้ายาเสพติดเปลี่ยนรูปแบบ วิธีการ เพื่อหลบหนีมาตรการตรวจจับอันรัดกุมของเจ้าหน้าที่ภาครัฐ ความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลในประเทศเพื่อนบ้าน จนผู้ค้าไม่สามารถส่งสินค้า หรือลำเลียงยาเสพติดได้อย่างสะดวก
กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ แจ้งว่า จากข้อมูลที่ได้รับจากนักโทษยาเสพติดที่ถูกจับในประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนจีน ประมวลได้ว่า คนไทยถูกชักนำเข้าสู่กระบวนการค้ายาเสพติด ในฐานะผู้ลักลอบขนยาเสพติดจากแหล่งผลิตในประเทศที่สาม (อินเดียและปากีสถาน) ไปยังแหล่งจำหน่ายในประเทศจีน
ผู้จ้างวานส่วนใหญ่เป็นชาวแอฟริกันตะวันตกที่เข้ามาในประเทศไทย โดยกลุ่มคนเหล่านี้เริ่มต้นด้วยการใช้ นกต่อ ที่เป็นผู้หญิงไทยซึ่งอาจเป็นภรรยา ติดต่อกับ "เหยื่อ" หญิงไทยที่พร้อมจะเสี่ยงเป็นผู้ขนลำเลียงยาเสพติด "นกต่อ" ให้เหยื่อเดินทางไปยังแหล่งยาเสพติด โดยออกค่าเดินทางพร้อมเงินติดตัวไม่รวมค่าจ้างและ เมื่อได้รับของแล้วเดินทางต่อไปยังจุดหมายปลายทาง คือ ประเทศจีนซึ่งปัจจุบันมีตัวเลขนักโทษไทย ที่ถูกจับกุมในข้อหาลักลอบขนยาเสพติดอยู่ถึง 60 ราย
ที่น่าเป็นห่วงคือกว่าครึ่งของนักโทษที่ถูกจับกุมมีความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ว่า อายุในวัยทำงานเฉลี่ย 20-30 ปี ซึ่งผู้ถูกจับกุมถูกนายหน้า คนกลางชักจูงว่าหากถูกจับได้รับโทษจำคุก เพียง 5-10 ปีเ ท่านั้น แต่ในความเป็นจริงโทษที่ได้รับนั้นเป็นโทษสูงสุดถึงประหารชีวิตหรือจำคุก ตลอดชีวิต นอกจากนี้ยังมีหญิงไทยต้องโทษ ในอเมริกาใต้17คนข้อหา "ลักลอบขนยาเสพติด" หญิงไทยดังกล่าวหวังขนยาเสพติดโคเคน กลับประเทศไทยแต่ถูกจับได้
กองคุ้มครองฯ กรมการกงสุลจึงออกเตือนหญิงไทยหรือผู้ที่กำลังจะตกเป็นเหยื่อระวังการถูกชัก ชวนหรือชักจูงจากขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติเหล่านี้ และสุดท้ายผู้ขนส่งยาเสพติดไม่มีทางรอดต้องโทษสูงสุดประหารชีวิตครอบครัว เดือดร้อนยิ่งกว่าเดิมรวมทั้งขอให้คำนึงถึงผลร้ายของการค้ายาเสพติดที่ทำลาย สังคมและเยาวชนพบเบาะแสหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่กองคุ้มครองฯ โทร.0-2575-1046-51

ที่มา คมชัดลึก
"นังผู้หญิงใจบาป ขนาดผัวมันยังฆ่าได้ลงคอ!!"
คำด่าทอจากสังคมยังคงดังก้องอยู่ในความรู้สึกของ มะลิ และ เอื้องจันทน์ 2 ผู้ต้องหาที่ถูกดำเนินคดีฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ซึ่งผู้เสียชีวิตก็หาใช่คนอื่นคนไกล แต่เป็นสามีที่รวมเรียงเคียงหมอนมาด้วยกัน
สังคมรุมประณามหยามเหยียด โดยหารู้ไม่ว่า ก่อนที่ทั้งคู่จะกลายเป็นจำเลย พวกเธอต้องตกอยู่ในสภาพ....ผู้ถูกสามีกระทำความรุนแรง จนบอบช้ำรุนแรงทั้งร่างกายและจิตใจ!!
"สมกับคำด่าของเขาแล้ว"
มะลิ หญิงชาวชัยภูมิ วัย 30 ปี อาชีพก่อสร้าง พูดด้วยน้ำเสียงขมขื่น "เพราะฉันเป็นคนฆ่าเขาเองกับมือ" เธอรับสารภาพ ทั้งที่ตลอด 6 ปีที่อยู่กินกับสามีอาชีพช่างก่อสร้างเหมือนกัน จนมีลูกชายด้วยกัน 1 คนนั้น เขาไม่เคยเป็นสามีและพ่อที่ดีเลย วันๆ เอาแต่กินเหล้า เสพยาบ้า ซึ่งนี่เป็นต้นเหตุที่ทำให้ทั้งสองทะเลาะกันบ่อยๆ และทุกครั้งที่ทะเลาะกัน เขาจะกระทำกับเธอประดุจกระสอบทราย
"เวลาเขาโกรธเขาจะชอบบีบคอ ด่าหยาบๆ ทำร้ายตบตี มีหลายครั้งเจ็บปางตายต้องนอนหยอดน้ำข้าวต้ม"
แต่มะลิก็อดทน แม้เขาจะทำร้ายอย่างไร เธอก็ยังให้อภัย...
กระทั่ง ...เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ทั้งคู่ทะเลาะกันด้วยเรื่องเดิมๆ ที่เขาเอาแต่กินเหล้าไม่สนใจลูกเมีย เขาลงมือตบตีจนมะลิทนไม่ได้ บอกเลิก และจะกลับไปอยู่บ้านกับพ่อแม่ที่ชัยภูมิ
"ก่อนจะไป ขอตีให้น่วมก่อน" สามีพูดก่อนเดินถือค้อนเข้ามาหวังจะตีมะลิ ระหว่างนั้นมะลิหันไปเห็นมีดอยู่ข้างๆ เธอจึงยกมีดขึ้นมาเพื่อใช้ป้องกันตัว เหตุการณ์ชุลมุนอยู่พักหนึ่ง แล้วมีดก็ปักเข้าไปที่ท้องของผู้เป็นสามี!! เขาล้มลง พร้อมกับทิ้งตราบาปให้มะลิต้อง "มือเปื้อนเลือด" ไปตลอดชีวิต
ขณะนี้ คดีของมะลิอยู่ในชั้นการพิจารณาสอบสวนของอัยการ โดยได้รับการช่วยเหลือจากมูลนิธิเพื่อนหญิง
เช่นเดียวกับ เอื้องจันทน์ อายุ 52 ปี ชาวจ.พะเยา อาชีพค้าขาย ซึ่งมีชะตาชีวิตไม่ต่างจากมะลิ แม้สามีของเอื้องจันทน์จะไม่ติดเหล้า ติดยา แต่ความเจ้าชู้ของเขานั้น หาตัวจับยากจริงๆ
"อยู่กับเขามา 17 ปี เจ็บช้ำน้ำใจเรื่องความเจ้าชู้มาตลอด" ซึ่งนี่เป็นต้นเหตุที่ทำให้ทั้งคู่มีปากเสียงกันตลอด 17 ปีที่ใช้ชีวิตร่วมกัน
"ครั้งล่าสุด อายุตั้ง 77 แล้วยังไม่เลิกเจ้าชู้ แถมยังโทรศัพท์พูดเสียงอ่อนเสียงหวานกับผู้หญิงคนนั้นต่อหน้าเรา แต่พอคุยกับเราตะคอกใส่ทุกคำ" เอื้องจันทน์ระบายความอัดอั้น "พอเราจับได้ ก็ไม่ยอมรับ แถมยังจุดธูปต่อหน้าพระสาบานว่า หากมีจริง ขอให้ตายภายใน 3 วัน 7 วัน"
2 เดือนต่อมาหลังจากวันที่สาบาน เขาก็เสียชีวิตลง! จากเหตุการณ์ที่ทั้งคู่มีปากเสียงกันอย่างรุนแรงเรื่องที่ฝ่ายชายไปมีหญิงอื่น ไม่ยอมให้เงินใช้จ่ายเป็นค่าเช่าบ้าน ค่าผ่อนรถ เอื้องจันทน์ถูกสามีทำร้ายด้วยการเตะ ตีเข่า ชกบริเวณหน้าอก และตีด้วยท่อนเหล็ก เธอจึงหยิบมีดขึ้นมาเพื่อป้องกันตัว เป็นจังหวะเดียวกับที่สามีโถมตัวเข้ามาพอดี ปลายมีดแทงเข้าไปบริเวณซี่โครงซ้าย 1 ครั้ง
จากเหตุการณ์นี้ ทำให้เอื้องจันทน์ถูกควบคุมตัวเข้าฝากขังที่ทัณฑสถานหญิงเป็นเวลา 18 วัน ข้อหาฆ่าคนตาย ก่อนที่บุตรสาวจะประกันตัวออกมา เธอยอมรับกรรมที่เกิดขึ้นอย่างไม่มีข้อแก้ตัว ซึ่งถ้าไม่ห่วงลูกสาวและหลานๆ ให้เธออยู่ในนั้นตลอดไปก็ได้
"ยอมรับ ตัวเองว่าเป็นคนบาป เครียดมาก มีแต่คนประณามว่าดิฉันเลว แต่ไม่มีใครรู้เลยว่า ตลอดเวลามันเจ็บช้ำแค่ไหน ด้วยความสัตย์จริงว่า ฉันไม่ได้อยากฆ่าเขา เพราะถ้าอยากให้เขาตายจริง คงไม่อยู่กับเขามาถึง 17 ปีหรอก" แล้วเธอก็ร้องไห้
ขณะนี้ คดีของเอื้องจันทน์อยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ว่าผลการดำเนินคดีจะออกมาอย่างไร เอื้องจันทน์ก็น้อมรับชะตากรรม
"ชีวิตนี้เพิ่งได้มาเจอ ขอแค่ครั้งเดียวพอแล้ว ชาติไหนๆ ก็ขออย่าได้เจออีกเลย" พูดด้วยน้ำเสียงสะอื้น
เรื่องราวชีวิตของเธอทั้งคู่ เปรียบเสมือนกระจกส่องครอบครัวไทยหลายๆ ครอบครัว ที่ผู้หญิงถูกกระทำเหมือนไม่ใช่คน จริงอยู่ แม้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในทางกฎหมาย มันเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ และควรได้รับโทษทัณฑ์ แต่หากมองย้อนกลับไปถึงสาเหตุโศกนาฏกรรม
"ตราบาป" ที่ได้รับวันนี้ มันไม่ยุติธรรมเลย!!!
สถิติน่าห่วง ชนวนโศกนาฏกรรม
- นางสาวสุเพ็ญศรี พึ่งโคกสูง หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สิทธิสตรี มูลนิธิเพื่อนหญิง กล่าวว่า สำหรับกรณีภรรยาฆ่าสามีนั้น เมื่อก่อนนานๆ 4-5 ปี มี 1-2 คน แต่ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นเป็น 2-3 คนต่อปี
- นางสาวปานจิตต์ แก้วสว่าง นักสังคมสงเคราะห์ มูลนิธิผู้หญิง ได้ให้ข้อมูลว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2552 มูลนิธิได้ช่วยเหลือผู้หญิงที่ประสบปัญหาความรุนแรงในครอบครัว 110 คน โดยเกือบทั้งหมดเป็นความรุนแรงที่กระทำโดยสามี นอกจากนี้ยังได้ช่วยเหลือผู้หญิงในคดีเจตนาฆ่าสามีจำนวน 4 คน
- นายจีราวัฒน์ จันทร์หอม หัวหน้าฝ่ายรับเรื่องราวร้องทุกข์ ศูนย์ประชาบดี 1300 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยข้อมูล ในช่วงเดือนตุลาคม 2551 ถึงเดือนสิงหาคม 2552 มีผู้หญิงถูกละเมิดทางร่างกาย ทางเพศ ทางจิตใจ โทรศัพท์มาปรึกษาและขอความช่วยเหลือ 262 เรื่อง ซึ่งมีถึง 214 เรื่องที่ถูกทำร้ายร่างกาย ส่วนใหญ่มีอายุ 31-40 ปี ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความรุนแรงเกิดขึ้นกับผู้หญิง
ที่มา สนุกดอทคอม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น